Fate The Last Wish
ชีวิตปกติกำลังจะเปลี่ยนไปอีกครั้ง 7 คน 7 ความปรารถนา ปณิธานของใครจะหยุดความบ้าคลั่งนี้ได้
ผู้เข้าชมรวม
445
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Prologue
ในวัน วัน หนึ่ง
นี่คือเรื่องราวของชายหนุ่ม ผู้ซึ่งไม่ยึดมั่นในสิ่งใดนอกจาก
เหตุและผลของตัวเขาเอง แม้ในอดีต
เขาจะเป็นเด็กหนุ่มที่ยึดมั่นในความถูกต้องอย่างแรงกล้า
หากแต่เมื่อเขาเติบโตขึ้นก็มีสิ่งที่เขาได้เรียนรู้
‘ทุกสิ่งย่อมมีข้อแลกเปลี่ยน’
แม้จะเชื่อในเรื่องการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม
หากอยากได้สิ่งหนึ่งก็อาจต้องสูญเสียอีกสิ่งหนึ่งไป
“ของที่สั่งได้แล้วค่ะ”
พนักงานสาวเอ่ยขึ้น ก่อนจะส่งแก้วกาแฟเย็นให้ชายหนุ่มคนหนึ่ง
เขามีผมสั้นสีดำถูกจัดทรงไว้ด้วยเจล แต่งตัวด้วยชุดที่โดดเด่นกว่าคนทั่วไป เสื้อแขนยาวมีหมวกคลุม
และกางเกงขาบานกับรองเท้าบูทยาวเกือบถึงเข่า
หากจะถามว่านั้นแปลกยังไง
เพราะที่นี่คือประเทศไทยในช่วงหน้าร้อนมีอุณหภูมิถึง สามสิบห้าองศา
ชายหนุ่มใช้มือกระตุกเสื้อถี่ๆ เพื่อเพิ่มความเย็นให้ร่างกาย “เอ๊ะ! ร้อยกว่าบาทเลยเร้อ!” แม้จะมีรูปร่างกำยำและหน้าตาอันคมคาย
แต่เมื่อเห็นราคาของกาแฟ เขาก็เผลอหลุดสำเนียงบ้านเกิดออกไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ
เหงื่อหลายเม็ดซึมออกจากใบหน้าของเขา
ตอนนี้เงินที่พกมาคงไม่พอเสียแล้ว ผู้คนที่ต่อแถวอยู่ด้านหลังต่างพากันจ้องมอง
‘ผมเอง
ก็เป็นคนดีมาตลอด เข้าวัดฟังธรรมตั้งแต่สมัยอยู่สุพรรณ ทำไมกัน
มากรุงเทพวันแรกก็งานเข้าเสียแล้ว’ ชายหนุ่มพยายามคิดหาทางออก
จนกระทั่งสายตาของเขาไปสะดุดเข้ากับชายคนหนึ่งผู้มีเส้นผมสีขาวเป็นเอกลักษณ์
“สักครู่นะครับ” เขารีบผละออกจากหน้าเค้าเตอร์
และตรงเข้าไปหาเป้าหมายทันที มือใหญ่ตบเข้าที่ไหล่ของคนตรงหน้าอย่างรวดเร็ว “เฮ้!
เพื่อน”
แน่นอนว่าชายผมขาวคนนี้ก็เป็นผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด
และไม่ต้องเดาให้เสียเวลาเลยว่าเขาเข้ามาทักทำไม
หนุ่มผมดำกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะพูดกระซิบเบาๆ
“ผมขอร้องล่ะคุณ...พอจะมีสักสองร้อยไหม”
ชายผมขาวถอนหายใจยาวๆออกมา ทุกสิ่งย่อมมีข้อแลกเปลี่ยนเสมอ
เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาจึงหันกลับไปมองชายหนุ่มด้านหลัง นัยน์ตาคมสีน้ำตาลอ่อนของเขามองเข้าไปในดวงตาสีดำของชายหนุ่ม
“ขอ..” ไม่ทันที่จะได้พูดจบ
ชายหนุ่มผมสีขาวตรงหน้าก็ส่งธนบัตรสีแดงสองใบให้เขา “เอ่อ...ขอบคุณครับ” คนตรงหน้าผงกหัวให้เขาเล็กน้อยก่อนจะเดินจากไป
ใช่แล้ว ทุกอย่างมีการแลกเปลี่ยนเสมอ หากสองร้อยบาทสามารถช่วยให้คนที่สดใสร่าเริงกลับมายิ้มได้
ก็ถือเป็นการแลกเปลี่ยนที่ไม่ได้แย่นัก
เจ้าของเส้นผมสีขาวหันกลับไปมองด้านในร้านกาแฟ ภาพที่เขาเห็นคือ
ชายหนุ่มคนเมื่อกี้กำลังพยักหน้าถี่ๆและส่งยิ้มให้กับพนักงานสาว
“สมชาย” หญิงสาวสวมแว่นในชุดนักศึกษาเดินตรงเข้ามาหาเขา
ชายหนุ่มยิ้มทักทายเธอ “ตรงเวลาเหมือนเดิมเลยนะเดียร์” ทั้งสองพูดคุยกันก่อนจะเดินหายไปในฝูงชน
อีกด้านหนึ่งเด็กสาวผมสีน้ำตาลแต่งตัวด้วยชุดโลลิต้า
กำลังเดินฝ่าฝูงชนแออัดบนสถานีรถไฟ
แม้เธอจะคุ้นชินกับการเดินเบียดกับผู้คนบนรถไฟแล้ว
แต่ว่าตอนที่อยู่ญี่ปุ่นก็ไม่ได้แต่งตัวแบบนี้ขึ้นรถไฟ
คิ้วของเด็กสาวขมวดติดกันด้วยความหงุดหงิด
อาจเป็นเพราะสายตาของผู้คนที่จ้องมองเธอ อารมณ์ของเด็กสาวเดือดถึงขีดสุด
เธอรีบก้าวลงจากรถไฟแม้จะยังไม่ถึงสถานีที่เธอจะลง
แม้ว่าตัวเธอนั้นจะไม่ค่อยสนใจอะไรรอบข้าง
แต่ถ้าถูกมองจากทุกคนด้วยสายตาแปลกๆมันก็ต้องมีขุ่นเคืองกันบ้าง
ทันทีที่กำลังก้าวออกจากรถไฟ
รองเท้าส้นเข็มเจ้ากรรมก็ไปติดเข้ากับร่องประตู
ทำเอาเด็กสาวสะดุดหน้าทิ่มลงกับพื้น วันที่สองของการมากรุงเทพ ช่างย้ำแย่จริงๆ
‘นี่มัน....วันอะไรกันนะ’
เสียงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ถูกลากกับพื้นดังขึ้น เด็กหนุ่มตัวเล็ก
ก้มลงมองเด็กสาวที่ล้มอยู่ตรงหน้าเขา “เอ่อ...คือ
ตรงนี้ไปยังไงหรอครับ”
ใช่แล้ว แม้จะล้มอยู่ตรงหน้า
แต่เหมือนเด็กหนุ่มจะไม่ได้สนใจเธอเลย ไม่รู้ทำไมเด็กสาวที่ไม่ค่อยจะสนใจสิ่งรอบตัว
ถึงได้หงุดหงิดมากขึ้นไปอีก
“ทางนั้น” เธอใช้นิ้วเรียวยาวชี้ไปตรงทางที่กำลังก่อสร้าง “กระโดดลงไปตายซะ!! ไอเด็กบ้า!!”
..............................................................................
และนี่คือเรื่องราวใน วันๆหนึ่งของพวกเขา
ก่อนที่มหาสงครามจะเริ่มต้นขึ้น
ผลงานอื่นๆ ของ Lubinies ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Lubinies
ความคิดเห็น